Thursday, July 15, 2010

เวียดนามหนักใจ สินค้าไทย คืบเข้าครองตลาดได้เร็ว

ASTVผู้ จัดการรายวัน -- ต่างไปจากสินค้าจีนที่หลั่งไหลแบบโหมกระพือเข้าครอบคลุมตลาด สินค้าที่ผลิตจากประเทศไทยกำลังคืบคลานเข้าไปอย่างช้าๆ เป็นขั้นเป็นตอนและกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และกำลังคุกคามสินค้าของเวียดนาม

สถิติบ่งชี้ว่า การนำเข้าสินค้าจากไทยมีความหลากหลายยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับปริมาณที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นที่ชัดเจนว่าสินค้าไทยกำลังแข่งขันอย่างรุนแรงในตลาดผู้บริโภคขนาด ใหญ่เช่นเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ สินค้ากลุ่มอาหารแปรรูป เครื่องสำอาง เสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้า และสิ่งของเครื่องใช้ในครัวเรือน

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไซ่ง่อนเตียบถิ (Saigon Tiep Thi) หนังสือพิมพ์แนวการตลาดในนครโฮจิมินห์ สินค้าไทยมีราคาในอีกระดับหนึ่งที่สูงกว่าสินค้าผลิตในประเทศ สำนักงานการค้าไทยในต่างประเทศที่นั่นกล่าวว่า สินค้าไทยไม่ใช่คู่แข่งสินค้าเวียดนาม

นายเลวันหุ่ง (Le Van Hung) หัวหน้าฝ่ายการตลาดของเอซคุกเวียดนาม (Acecook Vietnam) ก็บอกว่า บะหมี่สำเร็จรูปของไทย เสนอรสชาติที่แปลกออกไปและราคาก็สูงกว่าบะหมี่ที่ผลิตในเวียดนาม ห่อละ 2,000-3,000 ด่ง (4-6 บาท) จึงจับตลาดที่สูงขึ้นไปอีก

หนังสือพิมพ์ฉบับนี้อ้างข้อมูลจากบุคคลในวงการตลาดอีกหลายคน ที่พูดถึงสินค้าไทยไปในหลายแง่มุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเภทเครื่องสำอางกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับผมนั้น สินค้าที่ผลิตจากไทยเกือบจะไร้คู่แข่งในเวียดนาม

และด้วยราคาที่ไม่แพงมาก หรือสูงกว่าของที่ผลิตในประเทศเพียงเล็กน้อย ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมจากไทย จึงหาซื้อได้ แม้กระทั่งตามร้านทำผมเล็ก และตลาดหลายแห่งในโฮจิมินห์จำหน่ายเครื่องสำอางจากไทยถึง 80% ของผลิตภัณฑ์หมวดเดียวกัน

สินค้าเครื่องสำอางจากไทย ขายดิบขายดี เนื่องจากมี “ราคาเบาๆ” คือ แพงกว่าสินค้าเวียดนามราว 10% และถูกกว่าสินค้าจากยุโรป คือ เยอรมนี ฝรั่งเศส และสหรัฐฯ ในหมวดเดียวกัน 60-70%

ในตลาดสว่ายกีงเลิม (Soai Kinh Lam) ตลาดผ้าที่มีชื่อเสียงของโฮจิมินห์ ชุดสำหรับสตรีที่ผลิตจากไทยราคา 250,000 ด่ง (ราว 450 บาท) ขายดีกว่าชุดสตรีที่ผลิตในเวียดนามราคา 100,000-150,000 ด่ง ผู้ค้ารายหนึ่ง กล่าวว่า ตอนนี้เสื้อผ้าจากไทยขายดีกว่าเสื้อผ้าจากจีน เนื่องจากคุณภาพของผ้าดีกว่า

นางเหวียนถิเฟืองมาย (Nguyen Thi Phuong Mai) เจ้าของร้าน A-T ผู้เชี่ยวชาญด้านเสื้อผ้าสำหรับเด็กที่นำเข้าจากไทย กล่าวว่า แม้สินค้าสำหรับเด็กจากไทยจะแพงกว่าสินค้าที่ผลิตในเวียดนามถึง 30% ก็ยังขายดีกว่า เนื่องจากคุณภาพที่ดีกว่า ขณะที่เจ้าของร้านอีกแห่งหนึ่งที่ขายทั้งสินค้าเวียดนามเองและของไทย บอกว่า ของเวียดนามขาดความหลากหลาย

ตามรายงานของสื่อทางการเมื่อปีที่แล้ว สินค้าไทยเริ่มเข้าไปรากฏตัวในตลาดเวียดนามหนาตายิ่งขึ้นในช่วงที่เกิดวิกฤต เศรษฐกิจโลกปี 2551-2552 ซึ่งตลาดยุโรปและอเมริกาย่ำแย่ลง ทำให้สินค้าไทยหันมาหาตลาดในภูมิภาคมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวียดนามที่เป็นตลาดใหญ่ประชากร 87 ล้านคน


ภาพจากเวียดนามเอ็กซ์เพรส เครื่องครัวสแตนเลสตราหัวม้าลายกลายเป็นขวัญใจแม่บ้านในโฮจิมินห์ ตรานกนางนวลซีกัล (Seagull) ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน ราคาแพงกว่าสินค้าจีนและผลิตภัณฑ์ของเวียดนามเองแต่ก็ขายดีกว่า ด้วยคุณภาพ
นางห่มง์ญุง (Hong Nhung) ซึ่งทำงานกับบริษัทต่างประเทศ กล่าวว่า เธอใช้ผงซักฟอกไทยที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ราคาไม่แพงมาก นอกจากนั้น ก็ยังใช้สบู่กับแชมพูที่ผลิตจากไทยอีกด้วย เพราะได้พิสูจน์แล้วว่ามีคุณภาพดีกว่า สินค้ายี่ห้อเดียวกันที่ผลิตในเวียดนาม

นางกวี่จาง (Quynh Trang) ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธุ์ห้างบิ๊กซี กล่าวว่า ความนิยมสินค้าไทยเริ่มมีแน้วโน้มมาแรงตั้งแต่ช่วงเทศกาลตรุษ 2552 เนื่องจากผู้บริโภคมีข้อกังขาต่อสินค้าผลิตจากจีน และ ห้างซูเปอร์สโตร์ต่างๆ กระทั่งบิ๊กซีเองก็ยังให้ความสำคัญต่อสินค้าจีนน้อย

เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ปัจจุบันเวียดนามเป็นเป้าหมายสำคัญยิ่งขึ้นสำหรับสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย ไซ่ง่อนเตียบถิ กล่าว

ผู้ค้าหลายคน กล่าวว่า นอกจากสินค้าไทยจะเข้าตามประตูที่เป็นทางการแล้ว จำนวนไม่น้อยถูกขนผ่านแดนเข้าทางบกโดยนักท่องเที่ยวบ้างและโดยผู้ค้าเองอีก จำนวนหนึ่ง

นายเหวียนตุ่ง (Nguyen Tung) ผู้จัดการบริษัทจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของรองเท้าแอ็ดด้า (Adda) กล่าวว่า ที่ขนผ่านด่านชายแดนทางบกมีจำนวนมากกว่าที่นำเข้าอย่างเป็นการประมาณ 10 เท่าตัว ร้านค้าส่วนใหญ่ที่ขายรองเท้ายี่ห้อนี้ เป็นรองเท้าที่ขนเข้าทางบกทั้งสิ้น

นางเฟืองมาย กล่าวว่า การซื้อสินค้าไทยนั้นง่ายดาย เพียงติดต่อบริษัทไทยทางอินเทอร์เน็ต ติดต่อตามงานแสดงสินค้า หรือโทร.ไปคุยกันตามเบอร์โทรศัพท์ที่ข้างกล่องบรรจุสินค้า หากซื้อขายกันคราวละมากๆ บริษัทไทยก็จะรีบส่งให้ทางเครื่องบิน เนื่องจากไทยกับเวียดนามอยู่ใกล้กันแค่นี้

ตามตัวเลขอย่างเป็นทางการของกระทวงอุตสาหกรรมและการค้า สินค้านำเข้าจากไทยใน 6 เดือนแรกของปี 2553 มีมูลค่ารวม 2,500 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 38% เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว

ตามตัวเลขของกรมศุลกากรไทย เดือน ม.ค.-มิ.ย.ที่ผ่านมา ไทยนำเข้าสินค้าจากเวียดนามคิดเป็นมูลค่า 2,099.3 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 37% และ ในช่วงเดียวกันการส่งออกสินค้าประเภทเครื่องสำอาง ไปเวียดนามมีมูลค่ารวม 25.9 ล้านดอลลาร์ (ขยายตัว 34.2%) เสื้อผ้าสำเร็จรูป 1.3 ล้านดอลลาร์ (ขยายตัว 14.4%)

No comments:

Post a Comment